วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สาระไม่ใช่ อย่าใส่ใจ

สยามรัฐ 7 พ.ค. 2552

“จงเข้มแข็งหาญกล้าฝ่าอุปสรรค
จงพิทักษ์หัวใจให้เข้มขลัง
ปรับสิ่งเหลวไหลที่ได้ฟัง
แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังกำลังใจ”
(พระครูปลัดสิทธิวัฒน์: หลวงพี่น้ำฝน)

“Be strong if you happen to hear any feedback,
they can blame or give you an excuse…
forget and don’t take it serious….
Instead, change it positive and prove that
they are all wrong.”
(ทิชา สทุธิธรรม)

-ทิชา สุทธิธรรม-
***********************************

พึ่งพา พึ่งพิง

สยามรัฐ 5 พ.ค. 2552

“ชาวบ้าน โดยทั่วไป อาศัยวัด
เป็นที่จัด กิจการ ด้านศาสนา
วัด ...อาศัย ชาวบ้าน ด้านข้าว – ปลา
ต่างพึ่งพา อาศัย ได้พึ่งพิง”
(พระครูปลัดสิทธิวัฒน์: หลวงพี่น้ำฝน)

“Those people in the old days live in the temple,
and take the temple for all religious ceremony,
….the temple also needs food supply from them,
….that is a part of life in helping each other.”
(ทิชา สทุธิธรรม)

-ทิชา สุทธิธรรม-
**********************************************

เจ้าชายติดหล่ม “มายา”

สยามรัฐ 1 พ.ค. 2552

ชีวิตของคนเราเวลาทำงานมากครุ่นคิดอะไรมามาก ก็จำเป็นต้องเผื่อสมองไว้ที่เรื่องไร้สาระบ้าง “ความบันเทิงใจ” เป็นอะไรที่คนถวิลหา โดยเฉพาะ ณ ห้วงเวลานี้ “เศรษฐกิจติดหล่ม”

สัปดาห์ที่แล้วอดที่จะใจหายไม่ได้ เมื่อพบว่า “ดาราเกาหลีขวัญใจ” ชาวไทยอย่าง “จู จี ฮุน” ที่โด่งดังจากบทพระเอก Princess Hours 1 เจ้าหญิงวุ่นวาย เจ้าชายเย็นชา จนคนไทย ติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง จะถูกจับฐาน “เสพยา” ไม่แตกต่างจากสังคนไทย พอโด่งดัง ไปไกล ก็เผลไผล หลงผิด คิดอะไรสั้นๆ “หั่น” อนาคตตัวเอง

รู้สึกเห็นใจเสมอ และไม่ได้คิดจะ “ซ้ำเติม” ให้จมดิน ชีวิตคนไม่แน่ไม่นอนช่วงที่ “โบยบิน” มากด้วยทรัพย์สิน – ชื่อเสียง ใครๆ ก็เข้าหาอยากยืนเคียง หวังผลในการคบหา อยากตีสนิทกับคนดัง ยิ่งอายุน้อยด้อยประสบการณ์ชีวิต (อันที่จริงผู้เขียนก็ไม่ใช่จะปราชญ์มากประสบการณ์) ซักเท่าไร แต่มีเหตุให้คิดได้ ให้ “จิตอยู่กับตน” คบคน “ต้องมองอย่างถ่องแท้”!!

จู จี ฮุน ต้องจบอนาคตในวงการมายา เพราะสะดุด “มายาตัวเอง” ทำผิด คิดจนตัวตาย จะกู้กลับนั้นไม่ง่าย เพราะไม่ใช่เวลา “ฉายแสง” กับอดีต เราลบไม่ได้ แต่ลืมได้ บทบาทใหม่ ก้าวใหม่ ที่รอข้างหน้า อาจต่างที่ ต่างเวลา ต่างสถานะ ต่างสังคมที่อาจ “ขม” ขาด “ความหวาน” นั้นอาจมีและยังต้องการคนดี ที่อยากกลับตัวกลับใจ !!

แล้วก็ต้องอย่าโทษ “นายทุน” ของซีรี่ซีไรส์เรื่องใหม่ เพราะเมื่อชื่อเสีย ขายไม่ได้ จะเสีย “เครดิต” ไปทำไม จะรักกันแค่ไหน แต่ธุรกิจต้องอยู่ได้ “เงิน – ทอง” ไม่เข้าใคร ออกใคร “พลาด” แล้วเรื่องใหญ่ เพราะไม่มีใคร “ใช้แทน”!!

-ทิชา สุทธิธรรม-
**********************************

แทนคุณท่าน

สยามรัฐ 30 เม.ย. 2552

“กตัญญู ต่อผู้ได้ ให้กำเนิด
จักประเสริฐ ยิ่งนัก เสริมศักดิ์ศรี
ตอบแทนท่าน ที่กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงชีวี
พระคุณนี้ มีแต่ปลื้ม ยากลืมเลือน”
(พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ : หลวงพี่น้ำฝน)

“Be grateful to someone who give your life,
for all those factors needed to bring you up,
what you do is always unforgetable in their heart.”
(ทิชา สุทธิธรรม)


-ทิชา สุทธิธรรม-
**********************************

รอหน่อยนะ....ลูก

สยามรัฐ 29 เม.ย. 2552

ในห้วงเวลาลำบากเยี่ยงนี้ที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายตัวเป็นไปได้ยากยิ่ง คน อยู่ได้ลำบากขึ้น อยู่อย่างสบาย - ยิ่งเป็นไปเกือบไม่ได้กลายเป็น “โชคร้าย” ของดวงวิญญาญ / ดวงจิต ที่จะมาก่อเกิดเป็นชีวิตใหม่ๆ ต้องริบหรี่ลงตามสภาวะเศรษฐกิจ

สมาคมให้การปรึกษาเรื่องการทำแท้งได้แจ้งตัวเลขของคนที่มาขอคำปรึกษาเรื่องทำแท้งนั้น มีมากขึ้นอย่างน่าตกใจว่าที่ “แม่มือใหม่” ในทุกระดับ “ชนชั้น” ไม่ใช่แค่ “คนยากจน” แต่ลามไปถึง “ชนชั้นกลางๆ” ไปถึงพอมีอันจะกิน ต่าง เงิน หด ไม่อยาก “เตี้ยอุ้มค่อม” เพิ่มภาระให้กับตัวเอง

ก็พอจะเข้าใจและเห็นดีด้วยอยู่บ้าง ถ้าหากปล่อยให้เกิดแบบ “รันทด” สู้ “ชะลอ” เพื่อ “รอรุ่ง” (ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม) น่าจะดีกว่า ไม่ต่างจาก “ผู้ชาย” ที่เดินหน้าขอ “ทำการคุมกำเนิด” (Birth Control) ด้วยการ ทำหมัน เพิ่มมากกว่า 50% เป็นการจำกัด - บำบัด - กำจัด เหนื่อยในระยะยาว !!

ถ้าหากว่าตามหลักการทางศาสนาพุทธที่อาจ “เข้าข่าย” การเบียดเบียน ในชีวิตแล้ว การทำแท้ง “ในแบบมีเงื่อนไข” อาจจะไม่แตกต่างจากการทำลายชีวิต แม้จะเป็นระยะ “เฉพาะกิจ” ที่เศรษฐกิจตกสะเก็ด ก็ไม่อยากจะให้ยืดยาวเกินไป

รู้ทั้งรู้ว่าพูดไปก็ “บ่มีไก๊” และคงฝืนอะไรไม่ได้มาก เพราะถ้า “มีลูก” แล้ว ชีวิต “ลำบาก” ก็คงไม่มีใครหรอกที่อยาก “ทุกข์” !!

-ทิชา สุทธิธรรม-
*************************************

รู้จักกตัญญู

สยามรัฐ 28 เม.ย. 2552

“กตัญญู รู้คุณท่าน เป็นฐานราก
มีค่ามาก กว่าทุกสิ่ง อย่าทิ้งขว้าง
ทำให้คน ได้เป็นคน ค้นพบทาง
ช่วยสรรค์สร้าง มรรคผล เป็นคนดี”
(พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ : หลวงพี่น้ำฝน)

“Be grateful to someone is the most
precious qualification…it is like a care moral
code of a good one”.
(ทิชา สุทธิธรรม)


-ทิชา สุทธิธรรม-
*******************************

ปัญหา (หนี้) โลกแตก

สยามรัฐ 27 เม.ย. 2552

ปัญหาอันเกี่ยวเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เป็นหนี้บ้าง ถูดยึดบ้านบ้าง เข้าหน้าชาวบ้านก็ไม่ติด ชีวิตขาดสภาพคล่องไม่แตกต่างทั้งในบ้านเราหรือนอกบ้าน (วาระแห่งโลก)

เก็บตกมาฝาก เพราะมีโอกาสคุยกับเลขาธิการศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ น่าสนใจตรงที่ คนเป็นหนี้ - ไม่มีปัญญาผ่อน - ต้องยอมขายทรัพย์สินที่มีทอดูตลาด แล้วคิดว่า...ตัดหนี้หมดไปแล้ว พอเริ่มตั้งตัวได้อุตส่าห์ไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ อยู่อาศัย ยังถูกตามไปยึดบ้านหลังใหม่เพราะมั่นใจว่า “หนี้เก่า” ล้างหมดนั้น...หาได้เป็นเช่นนั้นไม่...มันยังมีหนี้อยู่

ฟังแล้วเศร้า..สุดเห็นใจ..ไม่ใช่ความผิดที่คุณๆ ไม่ใส่ใจ แต่เชื่อหรือไม่ “คนไทย” ที่ไม่รู้เรื่องนี้ “มีเยอะมาก” ต้องคอยตามถามเรื่องสถานะหนี้ของคุณที่หน่วย “บัญชีทรัพย์” (ที่กรมบังคับคดี) อย่าประมาทเดี๋ยว “พลาด” แล้วจะ “ขาดใจ” “ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย” เพราะจะไม่มีใครตามบอกคุณ

บางรายกู้เงินไปเสริมสภาพคล่องกิจการ กู้ก็ไม่ได้มากเป็น 100 ล้าน แถมเป็นลูกหนี้ชั้นดี แต่โดนดอกเบี้ยประเภทบวกแล้วบวกอีกและก็ยากเหลือหลายกว่าจะขอผ่อนปรน...ทั้งๆที่เป็นแบงค์รัฐที่จะอยู่คู่เพื่อช่วยผู้ประกอบการ มีความเสี่ยงกันคนละแบบ แบงค์กลัวปล่อยกู้แล้วเจอหนี้เน่า แต่ผู้ประกอบการที่ใกล้ “เน่า” แล้ว “ซาก” ก็ไม่น่าดู ยังอยากวอนขอ “สู้” ต่อ...ถ้าพอต่อรองกันได้

ถ้าช่วยได้...ก็อย่าเพิ่งปล่อยให้ตายเล้ย.... “เมตตาธรรม ค้ำจุนโลกา”!!! ยังพอหาได้ใช่ไหม ?


-ทิชา สุทธิธรรม-
**************************************