วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ตกหลุมรักสำคัญไฉน


สยามรัฐ 13 กพ. 2552
พรุ่งนี้ เป็นวันวาเลนไทน์วันแห่งความรัก เกือบจะกลายเป็นค่านิยมของคนทั้งโลก อย่าเพิ่งสงสัยเลยค่ะว่าทำไมคอลัมน์เศรษฐกิจจะนำมาผูกโยงกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ได้ เคยได้ยินได้ฟังกันบ้างมั้ยค่ะ บิ “เมื่อความ จน เข้ามาทางประตู ความรัก ก็จะบินออกไปนอกหน้าต่าง” บางคนอาจจะคิดว่าดิฉันมองโลกในแง่ร้ายหรือคิดอะไรในเชิงวัตถุนิยม (Materialistic) มากเกินไป แต่คุณจะต้องคิดใหม่ค่ะ ถ้าดิฉันจะอ้างอิงข้อมูลทางเศรษฐกิจของประเทศอินโดนิเซีย ที่ก็โดนพิษเศรษฐกิจสะบักสะบอม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงงานอินโดนีเซียที่เข้าไปทำงานในมาเลเซียเป็นจำนวนมากถึงกว่าหลักแสนคน ซึ่งก็ต้องยอมรับสภาพตกงานจากนโยบายอันเข้มงวดของรัฐบาลมาเลเซียที่ออกกฏจำกัด การจ้างแรงงานต่างชาติ เพื่อเก็บตำแหน่งงานไว้รองรับแรงงานชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของประเทศและเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งงานคนพื้นถิ่น นอกจากนี้เรายังพบเห็นสภาพสถาบันครอบครัวอินโดนีเซียที่เริ่มสั่นคลอนจากสถิติการหย่าร้างที่เพิ่มจาก 20,000 คู่ เป็นกว่า 200,000 คู่ ในรอบ 10 ปี โดยสาเหตุหลักนอกเหนือไปจากทัศนคติไม่ตรงกัน เห็นจะเป็นเรื่องความเครียดจากภาวะเศรษฐกิจนั่นเอง
อีกหนึ่งประเทศที่อยากจะกล่าวถึง คือ สิงคโปร์ ซึ่งเริ่มก้าวเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถอดถอยเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียรองจากญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ สิงคโปร์เพิ่งออกมาแก้ต่างถึงประเด็น “เก่งเรื่องการผลิตลูก” ที่นานาประเทศยกฉายานี้ให้ จะไม่ให้คิดเช่นนี้ได้อย่างไร คุณผู้อ่านเชื่อมั้ยค่ะว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลสิงคโปร์ทำเกือบทุกวิถีทางให้ประชากรของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ขยายเวลาปิดไนท์คลับ สถานที่นัดพบหลังเลิกงาน เพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวมีโอกาสตกหลุมรักแล้วนำไปสู่การสร้างครอบครัว เพราะชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบท่ามกลางการแข่งขันสูง แถมอัตราหย่าร้างก็มากเป็นเงาตามตัว ผู้คนก็เลยเห็นความสำคัญเรื่องงาน (Task Oriented) มากกาว่าการออกเดท (Dating) เห็นมั้ยล่ะค่ะว่าประเทศที่ประชากรมีคุณภาพแต่หากมีน้อยเกินไป หรือ ขาดแคลนซึ่งดัชนีการตกหลุมรัก (Falling In Love Index: ผู้เขียนคิดเอง) ก็อาจส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เหมือนกัน มีมุมมองความรักที่น่าสนใจของกวีเอก “เพลโต” เจ้าของนิยาม Platonic Love ความรักแบบพลาโทนิค ซึ่งหมายถึงความรักที่มากกว่าความใกล้ชิด แต่เป็นความรักที่เชื่อมโยงถึงจิตวิญญาณของคน 2 คน เป็นความรักที่ให้สติ(การรู้ตัว) และสร้างแรงบันดาลใจ ให้รู้จักมองโลกได้อย่างลึกซึ้ง ดิฉันได้แต่แอบคิดไปว่าความรักคงไม่ใช่ทุกสิ่ง แต่ถ้าความรักของคนทั้งโลกเป็นอย่างที่เพลโตว่า โลกเราคงก้าวได้ไกลขึ้นในยุคที่หัวรถจักรไร้ทิศทางเช่นนี้..... เห็นด้วยมั้ยค่ะ...
-ทิชา สทุธิธรรม-
**********************************

1 ความคิดเห็น:

  1. เข้ามาอ่านแล้วน่ะซอส ชอบคำว่าดัชนีตกหลุมรัก

    ตุลย์

    ตอบลบ