วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

“บาท” แข็ง แจงด้วยเหตุ – ปัจจัย

สยามรัฐ 5 ส.ค. 2552

ทุกวันนี้ ดูเหมือนปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าเกินกว่าที่ควรจะเป็นกลับมาอีกครั้งปรับตัวทันกันมั้ยค่ะ คุณผู้อ่าน ต้นปีบาทอ่อน กลางปีบาทแข็ง ผู้ส่งออก บ่น กัน ระงม เพราะของๆ เราดูแพงในสายตาเมืองนอก คำสั่งซื้อก็เลยหด คนส่งออกเลยยอดตก อย่างที่เห็น ลองอธิบายดู เผื่อบางท่านจะได้มองภาพได้ออกมากขึ้น

เงินบาทจะอ่อนจะแข็ง มันมีเหตุผลเกี่ยวข้องกับการซื้อ และขายเงินบาท คนที่ขายเงินบาท คือ คนไทยที่ไปลงทุน เล่นหุ้น ฝากตังค์ที่เมืองนอก หรือ เป็นพวกต่างชาติที่มาลงทุน ต้อง “ขายบาท” เพื่อแลกซื้อเป็นดอลล่าร์ เอากลับประเทศเค้า

ซึ่งถ้าเงิน “ออก” นอกประเทศมากกว่า “เข้า” “บาท” ก็จะอ่อน แต่ตอนนี้บาทแข็ง 33.90 บาท ต่อดอลล่าร์ ก็แปลว่ากระแส “เงิน” ที่มาจากฝรั่งต่างชาติ ทั้งมาซื้อสินค้าและบริการ มาเล่นหุ้นมัน “เข้า” ประเทศมากว่า “ออก” พวกนี้แหละที่จะต้อง “ขาย” ดอลล่าร์ แล้วซื้อ “บาท” กลับเพื่อเอามาใช้ลงทุนในบ้านเรา

“บาท” ก็เลยแข็งโป๊ก กว่าที่ควรจะเป็น จน ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร ออกอาการเซ็ง ออกมาเฉ่งแบงค์ชาติอย่างที่เห็น

ในความเป็นจริง ไอ้อาการที่เงินเข้าประเทศมันก็ดีอยู่หรอก ถ้ามันเข้ามาแล้วอยู่ “ยาวๆ” ลงทุนเป็นจริงเป็นจัง แบบ Foreign Direct Investmen: ลงทุนโดยตรง ไม่ใช่พวก เงินร้อนแบบ “Hot Money” ที่เข้าๆ ออกๆ ให้ตลาดเงิน ตลาดทุน “วิตตก” เมื่อเทขายฟันกำไร แล้วดึงเงินกลับบ้านเก่า ซึ่งในทาง “พุทธ” นี่คงเข้าข่าย “คิดคด” และ “ฉ้อโกง” อย่างไม่ต้องสงสัย

อย่างไรเสียบ้านเรายังต้องการทุน จะหวังแค่การกระตุ้นจากเอกชนก็คงไม่พอ เพราะเอกชนยังใจไม่กล้า อยากเห็นรัฐบาลลงทุนให้ดูเป็นขวัญตาก่อน ว่าแต่ ตอนนี้รัฐบาลก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเลยว่า เงินที่กู้มา 800,000 ล้าน จะเอาไปกระตุ้นส่วนไหน นอกจากชดเชยคลังที่ขาดดุล อย่างลนยังลุ้นไม่เห็นเลย เฮ้อ.. ปัญหามีให้แก้ก็แก้ไป (นิโรธ : หนทางสู่การแก้ปัญหา)

(ทิชา สุทธิธรรม : Twitter@Ticha4tv)
**************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น