วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

“ที่” ของเรา แต่เขาก็ “ลัก” (ขโมย)

สยามรัฐ 14 ส.ค. 2552

กระแสแห่งความเป็นห่วง “ชีวิตชาวนา” กำลังเป็นที่พูดถึง เมื่อนายกสมาคมชาวนาไทย ออกมาเปิดเผย พร้อมหอบเอกสารแฟ้มบะเร้อมาให้กับกรมสอบสวนคีดพิเศษ (DSI) เพื่อนั่งยัน – นอนยันว่า เรื่องนี้มี “ยิ่งกว่ามูล”

ทั้งซาอุดิอาระเบีย ไต้หวัน เลบานอน และประเทศโลกตะวันออก ที่ “เงินเยอะ” และเริ่ม “คิดเยอะ” ว่า ถ้าต่อไปมีแต่เงิน + น้ำมัน แต่หา ข้าว หา พืช กินไม่ได้ คงลำบาก เลยกระเถิบมากว้านซื้อที่ดิน แถวประเทศกำลังพัฒนา

พี่ “ไทย” เราก็รวมด้วยว่า แถว สุพรรณบุรี อยุธยา ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร ก็ถูกกว้านไปมาก พวกต่างชาติจะเจรจาขอซื้อที่ดิน เสร็จแล้วก็จะว่าจ้างชาวนาเหล่านี้ “ทำนา” บางคนถูกจ้างไร่ละเป็นหมื่น ต่างชาติขอเสียเงินเพียงส่วนน้อย เพราะต้องการ “สอย” ผืนนาเงินน้อยต่อไปเรื่อยๆ ใช้วิธีฉลาด (แกมโกง) แบบ “นอมินี” ชาวนาที่มี “ที่” เลยไม่มีปากเสียง

นอกจากชาวนาจะไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรแล้ว ยังต้องก้มหน้าก้มตา ทำนา ให้ฝรั่งกันต่อไป คงมีเหตุผลอะไรที่ดีพอให้ ให้ “คิด” แต่บังเอิญ ที่ผู้เขียนไม่เข้าใจและหาไม่เจอ

มามองต่อถึงขั้นตอนที่ภาครัฐต้อง “ลงดาบ” ดาบอาจจะทื่อ หรือถูกมือดีหัก หรืออย่างไร สุดแท้แต่ ปัญหาที่นาถูก “งาบ” ไม่ได้ต้อง “คำสาป” ถึงขั้นแก้ไม่ได้ ปัญหามีอยู่ว่า ต้องกล้าแตะและชะล้าง พ.ร.บ. การประกอบกิจการ คนต่างด้าว และ ประมวลกฎหมายที่ดิน!!

พูดแทงใจดำแบบนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่แทบแดดิ้น เพราะถ้าลงมือแก้กฎหมายที่ว่า ต่างชาติเค้าคงไม่ “ชิน” และ “บิน” เตลิดไม่กล้ามาลงทุน เจรจาต๊าอ้วย step ต่อไป อาจจะ “ม๊วย” ถาวร เพราะฝรั่ง “ถอนเรียบ” เสียบลงทุนข้างบ้าน แทน !! เศร้าสุดแสนซับซ้อนและซ่อนปม !!

(ทิชา สุทธิธรรม : Twitter@Ticha4tv)
**************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น