วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2552

หว่านพืช – หวังผล บ้างก็ได้

สยามรัฐ 28 ส.ค. 2552

ช่วงนี้จะเห็นว่าหลายต่อหลายประเทศเริ่มมีความหวัง ตั้งแต่ญี่ปุ่นที่ตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นกลับเป็นบวกก่อนหน้านี้ จนมาถึงย่านเอเชีย อย่าง เวียดนามและอินโดนีเซีย

เวียดนามนั้นเป็นคู่แข่งของไทยยาวนาน แล้วก็เถียงกันมาตลอดในหมู่ของนักวิชาการว่า “นำหน้าไทยไปแล้ว” บ้างก็ว่า “ยังห่างชั้นนัก”

แม้จะเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างมาก และสินค้าส่งออกก็หน้าตาละม้ายคล้านเราอย่าง “ข้าว” อีก ที่แม้ตอนนี้จะเป็นรองไทยนิดหน่อยและก็มีแววตามทันได้ไม่ยาก ที่สำคัญ GDP เวียดนามที่ว่าต่ำ ก็ยังไม่เคยเติบโต ติดลบ กลับพุ่งสูงถึง 4.5 % แพ้อินโดเนียเซียแค่อึดใจ

ทีนี้มาดูเบอร์ 1 ในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือว่าเป็นม้าต้นปลายและเคยเกือบแย่ อย่างอินโดนีเซีย แปลกแต่จริง ที่สถานการณ์พลิกกลับอย่างดีเหลือเชื่อ เงินเฟ้ออินโดนีเซีย ก็ชะลอลง เงินรูปเปียะห์ก็ไม่ผันผวนจนทำให้ GDP ขยายตัวสวนทางเพื่อนๆ โตได้ถึง 4.5%

เหตุผลสำคัญที่อินโดนีเซียอยู่ได้อย่างดี เพราะแม้ในช่วงเศรษฐกิจแย่รัฐบาลก็ยังทุ่มเงินงบประมาณแบบไม่อั้นในการผุดโครงการเมกกะโปรเจ็ค ถึง 6,500 ล้านเหรียญ รวมทั้งกระตุ้นการบริโภคภายในไปพร้อมกัน

วิธีการแบบนี้ใช้ได้ผลมากับหลายประเทศในอดีต ที้ต้องกัดฟันเดินหน้า และเริ่มโครงการต่อเนื่องให้ได้ เพราะนั้นหมายความว่า “รัฐบาลมั่นใจมาก” ว่าเศรษฐกิจจะเดินได้ และนี่จะถึง “ความมั่นใจของเอกชน” ตามมา จากนั้นการจ้างงานก็จะขยายตัว เงินและสินค้า ในระบบก็จะหมุนเวียนตามวิถีทางของมัน “รัฐหยุดลงทุนไม่ได้”!! (หว่านพืช เพื่อหวังผล : จนแต่ก็จำเป็น)

พี่ไทยล่ะค่ะ เลื่อน....รอ....และเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ทะเลาะตัดขา “ฉันไม่ได้ แกก็ต้องไม่ได้” กว่ารัฐจะเริ่มเดินหน้าลงทุนได้สงสัยจะได้ “รัฐบาลใหม่” เป็นผู้ลงมือ !! (ความแน่นอนคือ ความไม่แน่นอน) นั้นย่อมหมายความว่า ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ !!


(ทิชา สุทธิธรรม)
**************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น